FACT releases free, legal circumvention tools |
กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย (FACT) ยินดีเผยแพร่เครื่องมือใหม่เพื่อการหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์อินเตอร์เน็ตที่ ง่ายแก่การใช้และถูกกฎหมาย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กระทรวงไอซีที) ผู้มีอำนาจเซ็นเซอร์อย่างเป็นทางการของคณะรัฐประหาร ได้ปิดกั้นเว็บไซต์ไปแล้วไม่น้อยกว่า 17,775 แห่ง ซึ่งเมื่อรวมกับเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้นโดยกรมตำรวจแล้ว จำนวนเว็บไซต์ที่ถูกทางการปิดกั้นทั้งหมดในประเทศไทยก็มีจำนวนสูงถึง 50,000 แห่ง การปิดกั้นส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่กระทู้อภิปรายในกระดานสนทนาออนไลน์ เครื่องมือหลบเลี่ยงการปิดกั้น เสียงจากชาวมุสลิมในภาคใต้ของไทย และเสียงวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ สภาที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารได้ออกพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (“พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์”) ซึ่งกำหนดบทลงโทษอย่างรุนแรงเกินจำเป็น และกำหนดให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ในทางที่ละเมิด สิทธิความเป็นส่วนตัวและสิทธิในการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างไม่เปิดเผยตัวตน ตลอดจนลิดรอนความเข้มข้นของการอภิปรายสาธารณะในประเด็นสำคัญ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ทำให้การหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์เป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยยกเว้นเพียง Virtual Private Networks (VPN) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ภาคธุรกิจนิยมใช้ในการสร้างช่องทางสื่อสารที่ปลอดภัย เป็นส่วนตัว และเข้ารหัสได้ (encrypted) กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย (FACT) มีความยินดีที่จะเผยแพร่ลิ้งก์ไปยังเครื่องมือใหม่ๆ ที่ง่ายแก่การใช้สองชิ้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตได้ อย่างถูกกฎหมาย ในขณะที่ VPN เคยเป็นเครื่องมือที่ยุ่งยากในการติดตั้งและยากแก่การบำรุงรักษา เครื่องมือใหม่สองชิ้นที่เผยแพร่โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้ทุกคนสามารถใช้ VPN ได้ เครื่องมือเหล่านี้ทำให้เครือข่ายส่วนตัวของคุณอยู่นอกประเทศ นอกเหนืออำนาจการควบคุมของเจ้าหน้าที่เซ็นเซอร์ของรัฐ ผ่านช่องทางเข้ารหัสที่รัฐบาลและผู้ให้บริการ (ไอเอสพี) ไม่สามารถมองเห็นว่าคุณกำลังเยี่ยมชมเว็บไซต์ใดอยู่บ้าง VPN ไม่เหมือนกับพร็อกซี่อินเทอร์เน็ตนิรนาม (anonymous Internet proxy) ตรงที่ไม่ผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงคลิปวีดีโอและไฟล์เสียงที่ถูกปิดกั้นได้ เครื่องมือติดตั้ง VPN ฟรีที่ง่ายแก่การใช้งานได้แก่ HotSpot Shield (Mac and Windows) <http://www.hotspotshield.com/> และ AlwaysVPN (Mac, Windows, Linux) <http://alwaysvpn.com/index.html>Social VPN (Windows, Linux) <http://socialvpn.wordpress.com/>. คุณเพียงแต่ต้อง install โปรแกรมครั้งแรก แล้วมันจะทำงานทันทีที่คลิ้กเปิดทุกครั้งที่พบเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้น รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีแผนที่จะสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ระดับประเทศเพื่อปิดกั้น “เนื้อหาลามก” ทั้งหมด และออสเตรเลียมีแผนที่จะใช้เงิน 189 ล้านเหรียญสหรัฐในการสร้างไฟร์วอลล์เพื่อให้รัฐมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครใน ออสเตรเลียสามารถเข้าถึงสื่อลามกได้ ทั้งรัฐบาลสวีเดนและอังกฤษได้ประกาศแผนที่จะตรวจจับการสื่อสารอิเล็กทรอนิคส์ทุกรูปแบบที่ข้ามพรมแดนของประเทศตน รัฐบาลไทยได้ประกาศแผนที่จะสร้างไฟร์วอลล์ระดับประเทศเพื่อปิดกั้น เนื้อหา “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” รวมถึง “เว็บไซต์ลามก เว็บไซต์อนาจาร และเว็บไซต์ก่อการร้าย” ด้วยงบประมาณ 100-500 ล้านบาท หรือประมาณ 2.9-14.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันกฎหมายระบุให้รัฐต้องขอคำสั่งศาลในการปิดกั้นเว็บไซต์ ซึ่งที่ผ่านมักเป็นคำสั่งที่ออกแบบ “ตรายาง” โดยไร้การตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน แผนการเซ็นเซอร์ใหม่ของกระทรวงไอซีทีจะทำให้สามารถปิดกั้นเว็บไซต์ได้โดยไม่ ต้องใช้คำสั่งศาล ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีประเทศใดบ้างหรือที่สามารถทนใช้มาตรการทำนองนี้ได้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยซึ่งถูกถอดถอนอำนาจโดยคำสั่งศาลเคยมีแผนที่จะปิด กั้นเว็บไซต์จำนวน 800,000 แห่ง มรดกของเขาที่ตกทอดมาสู่รัฐบาลปัจจุบันอ้างว่าปิดกั้นเว็บไซต์ “เพียง 2,300 แห่ง” โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ คลิปวีดีโอที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวส่งผลให้ รัฐบาลที่มาจากรัฐประหารแบนเว็บไซต์ YouTube เป็นเวลาเจ็ดเดือน คำสั่งแบนดังกล่าวก่อให้เกิดคลิปวีดีโอลอกเลียนแบบจำนวนหลายสิบชิ้น Google ร่วมมือกับรัฐบาลไทยอย่างลับๆ ในการบล็อกเนื้อหาโดยดูจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เป็นหลัก (geolocational blocking) ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะเข้าไปชมวีดีโอที่ถูกปิดกั้น จะพบกับข้อความ “ขออภัย คลิปวีดีโอนี้ไม่สามารถรับชมได้ในประเทศของท่าน” พร้อมกับถูกรัฐบาลย้ายไปหน้าเว็บอื่นด้วยพร็อกซี่โปร่งใส (transparent proxy) การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตจำนวนมากพุ่งเป้าไปที่คลิปวีดีโอที่ถากถาง วิพากษ์ ดูหมิ่น หรือเพียงแค่วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ไทย โดยเฉพาะช่อง StopLeseMajeste ใน YouTube ซึ่งมีเนื้อหามากมาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองทรงตรัสว่า “the king can do wrong” แต่คนไทยที่รักในหลวงกลับไม่เคยฟังพระราชดำรัสจริงๆ ข้อหาหมิ่นฯ จึงเกิดจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คิดเล็กคิดน้อยตลอดมา รัฐบาลเชื่อว่าพวกเขาสามารถปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกได้โดยสมบูรณ์แบบ VPN พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาทำเช่นนั้นไม่ได้ HotSpot Shield (Mac and Windows) <http://www.hotspotshield.com/> —000— Source : http://facthai.wordpress.com |